แหละแล้ววัน "คริสต์มาส" ก็วนเวียนมาบรรจบครบรอบอีกปีหนึ่ง (จนได้) ซึ่งวัีนคริสต์มาสนี้จะตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม ของทุก ๆ ปี
จะว่าไปแล้ว "วันคริสต์มาส" เป็นวันที่มีหลายประเทศได้จัดงานเพื่อเฉลิมฉลองและประดับประดาไปด้วยดวงไฟทำให้เกิดความสวยงาม
แสงสีเมื่อประกายออกมาตัดกับพื้นสีขาวแล้ว มันช่างงดงามเสียเป็นอย่างยิ่ง
เราอาจจะนึกถึงในประเทศแถบหนาวเป็นอันดับแรก นึกถึงลานขาวที่มีแต่ "หิมะ" แล้วมีแสงไฟหลายหลายสีตัดกับพื้นสีขาว มันทำให้เกิดแสงที่สวยงามเป็นยิ่งนัก
มนุษย์เราเป็น "สัตว์สังคม" ต้องมีการพบปะสังสรรค์ ลองนึกแบบง่าย ๆ ถ้าต่างคนต่างอยู่แล้วไม่มีกิจกรรมอะไรเลยมันก็คงจะเงียบและเดียวดาย
ดังนั้น....มนุษย์จึงต้องคิดค้นกิจกรรมอะไรก็ได้เพื่อให้ชีวิตมีความตื่นเต้น และไม่เหงาจนเกินไปนัก วันสำคัญเช่นนี้จึงเกิดได้ปีละ 1 ครั้ง
กลับมาที่เรื่อง "วันคริสต์มาส" ของเรากัน ในฤดูที่หนาว ๆ แบบนี้ในฝันของหลาย ๆ คนคงนึกถึงหิมะที่ตกปรอย ๆ จากท้องฟ้าลงสู่พื้นดิน คล้าย ๆ "ปุยนุ่น" ที่ปลิวลงมาเรื่อย ๆ จากที่สูง
นึกถึงแล้วมันช่าง "ศิวิไลย์" ยิ่งนัก ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราอาจจะเห็นได้จากภาพยนต์หลายต่อหลายเรื่อง
สิ่งนี้เป็นจินตนาการของหลายๆคนที่อยากสัมผัสกับบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์แบบนี้เป็นยิ่งนัก หรืออาจจะตั้งใจไว้ว่า "ซักครั้งหนึ่งในชีวิต" ขอให้ได้
เห็นซักครั้งเถอะ
กระผมเอง....ตั้งใจไว้เช่นกันว่า ต้องมีสักวันที่ได้เข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศเช่นนี้ให้จงได้ มันเป็นจินตนาการของคนที่ยังไม่เคยได้สัมผัสกับหิมะน่ะ
ยิ่งภาพยนต์ของ "ประเทศเกาหลี" เข้ามาฉายให้เห็นบ่อยขึ้น "อยาก" ที่จะต้องไปสัมผัสบรรยากาศที่ละครเขาถ่ายให้ดูเสียเต็มประดา
แรงบันดาลใจของหลาย ๆ คน รวมทั้งกระผมเองจึงก่อตัวเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งที่ตั้งใจไว้ว่า "ต้องไปสัมผัส" ให้ได้
ส่วนจะเป็นเมื่อไร หรือเวลาใดนั้นต้องดูความเหมาะสมกันต่อไป เนื่องจากมีหลายปัจจัยเข้ามาเป็นสิ่งที่ต้องคิด
ครอบครัวของกระผมเองได้ตั้งใจไว้หลายปีแล้วที่อยากจะไปเดินสัมผัสตามจินตนาการในฝัน แม้มันจะผ่านไปหลายปีแล้วก็ยังตั้งใจไว้อยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ต้อง "สะสมเงินทอง" เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยว
หากสิ่งที่ "ฝัน" ไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย ครอบครัวเราเองคงไปหลายสถานที่แล้วแหละ ถ้าจะทำให้ได้ง่าย ๆ ก็ดูใน "google" นั่นเอง การทำสิ่งนี้คงทำได้เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทาง และดูเส้นทางเมื่อต้องได้เดินทางไปจริง ๆ
โดยจะเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของทางฝรั่งมังค่าเขา นั่นคือเป็น "วันปีใหม่" ของเขานั่นเอง
ถัดมาจากนั้นเพียงไม่กี่วันก็เป็นวันปีใหม่ีที่สากลโลกยึดถือกัน ใช่แล้วแหละวันสำคัญ ๆ เยี่ยงนี้หลาย ๆ คนต่างก็รอคอยเพื่อที่จะเฉลิมฉลองต้อนรับวันสำคัญที่จะมาถึงเป็นแน่แท้ล่ะ
ถึงแม้ว่าในใจลึก ๆ จะทราบว่า ตัวเองก็อายุมากไปอีก 1 ปีแล้ว หรือเป็นอีกนัยหนึ่งคือ "แก่" ไปอีกปีแล้วนะ
...แต่...จะไปทำอะไรได้ล่ะ อยู่ให้อายุมัน "หยุด" ก็เป็นพอ เพราะถ้าอายุหยุดเมื่อไร คงหมายถึง "ตาย" หรือ "ไม่หายใจ" แล้วนั่นเอง
แสงสีเมื่อประกายออกมาตัดกับพื้นสีขาวแล้ว มันช่างงดงามเสียเป็นอย่างยิ่ง
เราอาจจะนึกถึงในประเทศแถบหนาวเป็นอันดับแรก นึกถึงลานขาวที่มีแต่ "หิมะ" แล้วมีแสงไฟหลายหลายสีตัดกับพื้นสีขาว มันทำให้เกิดแสงที่สวยงามเป็นยิ่งนัก
มนุษย์เราเป็น "สัตว์สังคม" ต้องมีการพบปะสังสรรค์ ลองนึกแบบง่าย ๆ ถ้าต่างคนต่างอยู่แล้วไม่มีกิจกรรมอะไรเลยมันก็คงจะเงียบและเดียวดาย
ดังนั้น....มนุษย์จึงต้องคิดค้นกิจกรรมอะไรก็ได้เพื่อให้ชีวิตมีความตื่นเต้น และไม่เหงาจนเกินไปนัก วันสำคัญเช่นนี้จึงเกิดได้ปีละ 1 ครั้ง
กลับมาที่เรื่อง "วันคริสต์มาส" ของเรากัน ในฤดูที่หนาว ๆ แบบนี้ในฝันของหลาย ๆ คนคงนึกถึงหิมะที่ตกปรอย ๆ จากท้องฟ้าลงสู่พื้นดิน คล้าย ๆ "ปุยนุ่น" ที่ปลิวลงมาเรื่อย ๆ จากที่สูง
นึกถึงแล้วมันช่าง "ศิวิไลย์" ยิ่งนัก ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราอาจจะเห็นได้จากภาพยนต์หลายต่อหลายเรื่อง
สิ่งนี้เป็นจินตนาการของหลายๆคนที่อยากสัมผัสกับบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์แบบนี้เป็นยิ่งนัก หรืออาจจะตั้งใจไว้ว่า "ซักครั้งหนึ่งในชีวิต" ขอให้ได้
เห็นซักครั้งเถอะ
กระผมเอง....ตั้งใจไว้เช่นกันว่า ต้องมีสักวันที่ได้เข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศเช่นนี้ให้จงได้ มันเป็นจินตนาการของคนที่ยังไม่เคยได้สัมผัสกับหิมะน่ะ
ยิ่งภาพยนต์ของ "ประเทศเกาหลี" เข้ามาฉายให้เห็นบ่อยขึ้น "อยาก" ที่จะต้องไปสัมผัสบรรยากาศที่ละครเขาถ่ายให้ดูเสียเต็มประดา
แรงบันดาลใจของหลาย ๆ คน รวมทั้งกระผมเองจึงก่อตัวเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งที่ตั้งใจไว้ว่า "ต้องไปสัมผัส" ให้ได้
ส่วนจะเป็นเมื่อไร หรือเวลาใดนั้นต้องดูความเหมาะสมกันต่อไป เนื่องจากมีหลายปัจจัยเข้ามาเป็นสิ่งที่ต้องคิด
ครอบครัวของกระผมเองได้ตั้งใจไว้หลายปีแล้วที่อยากจะไปเดินสัมผัสตามจินตนาการในฝัน แม้มันจะผ่านไปหลายปีแล้วก็ยังตั้งใจไว้อยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ต้อง "สะสมเงินทอง" เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยว
หากสิ่งที่ "ฝัน" ไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย ครอบครัวเราเองคงไปหลายสถานที่แล้วแหละ ถ้าจะทำให้ได้ง่าย ๆ ก็ดูใน "google" นั่นเอง การทำสิ่งนี้คงทำได้เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทาง และดูเส้นทางเมื่อต้องได้เดินทางไปจริง ๆ
(พักไว้อีกรอบครับ ท่านผู้ชม....จะมาต่อใน โอกาสว่าง ๆ นะจ๊ะ)