เมื่อขั้นตอนทุก ๆ อย่างผ่านหมดแล้ว เรา็จะต้องทำ "วีซ่า" เพื่อของอนุญาตเข้าประเทศญี่ปุ่นกัน ซึ่งต้องทำกันทุก ๆ คนที่ีมีความประสงค์จะเข้าประเทศ
เขาจะได้รายงานว่า ช่วงเวลาใดมีใครจะเข้าประเทศเขา และ มีคุณสมบัติพอที่จะให้เข้าหรือไม่
หรือว่า ไปแล้วก็ "โดด" คือ หากินที่บ้านเมืองเขาเลย ถ้ามาแนวนี้ "จะไม่อนุญาตให้เข้า"
สำหรับ ..วีซ่า..ไปประเทศญี่ปุ่นนั้นเขาเิปิดให้ทำที่ไปรษณีย์จังหวัดระยองด้วย เปิดมา 4 ปีแล้วแหละ ทำให้เราไม่ต้องเดินทางไปกรุงเทพมหานครอีกต่อไปแล้ว
เป็นอย่างไรเหรอ ...สะดวกยิ่งขึ้น ก็ตัดการเดินทางออกไป นั่นคือการเดินทางก็จะสั้นลงเยอะ ไม่เสียเวลาเป็นวัน ๆ เหมือนแต่ก่อน
ก่อนนั้น...ถ้าจะไปทำวีซ่านะ ก็ไปกันตั้งแต่เช้า กลับมาก็เย็นเลย คือหนึ่งวันให้กับการไปทำวีซ่าเพียงหนึ่งเรื่องเท่านั้น
ผมว่าการเปิดให้ทำแบบนี้ความต่างก็ไม่เห็นมีอะไร ยังเป็นความสะดวกด้วย เพราะอย่างไรเสีย เอกสารก็ต้องส่งไปให้เจ้าหน้าที่ที่กรุงเทพฯ ตรวจอยู่แล้ว
สำหรับเรื่องราวการจัดการเอกสารนั้น ถ้าไม่ได้ "ป้าอ้อย" นะ เอกสารจะผ่านยากมาก นี่ได้ "ป้าอ้อย" เข้ามาจัดการว่า...ควรจะนำเอกสารอะไรบ้างเข้าไปเสนอเจ้าหน้าที่
....ฟัง "อ้อยใจ" เตรียมเอกสารดูนะจ๊ะ...
แล้วเจ้าหน้าที่จะเห็นด้วยกับเอกสารที่เรายื่นไปว่า "OK" หลักทรัพย์ของคุณนั้นค้ำประกันได้ คง "ไม่ลักลอบ" หนีเข้าเมืองโดยใช้บัตรท่องเที่ยวหรอก เขาก็จะอนุมัติให้เรา "Pass" หรือ "ผ่้าน" เข้าเมืองเขาได้
การเดินทางนั้นไม่ไกลจากบ้านแล้วแหละ ทุก ๆ คนอาจจะต้องแต่งตัวแบบไม่ต้องบรรจงมากนัก ซึ่งเมื่อ 4 ปีก่อนนั้นจะต้องเดินทางไปที่ห้างเซ็นทรัลบางนากันโน่นแน่ะ ทำให้ต้องใช้เวลากัน 1 วันเต็ม ๆ แบบไม่ต้องทำอะไรกันอย่างอื่นเลย
........ชมเหตุการณ์วันที่ไปขอวีซ่ากันครับ.....
เมื่อวีซ่า "ผ่าน" แล้ว กลุ่มเรายินดีมาก กลัวและกังวลว่า...วีซ่าจะติดขัด แต่แล้ววีซ่าก็ผ่านฉลุย โดยฝีมือ "้อ้อยใจ" ค่ะ
...ชมเหตุการณ์ที่ได้รับวีซ่าผ่านซิ...
ชมรูปไปก่อนนะจ๊ะ ..กลับมาจะทำต่ออีกนิด
...ชมรูปวันไปทำวีซ่า ..ไปพลาง ๆ ก่อนนะ...
(ติดตามต่อ)
เขาจะได้รายงานว่า ช่วงเวลาใดมีใครจะเข้าประเทศเขา และ มีคุณสมบัติพอที่จะให้เข้าหรือไม่
หรือว่า ไปแล้วก็ "โดด" คือ หากินที่บ้านเมืองเขาเลย ถ้ามาแนวนี้ "จะไม่อนุญาตให้เข้า"
สำหรับ ..วีซ่า..ไปประเทศญี่ปุ่นนั้นเขาเิปิดให้ทำที่ไปรษณีย์จังหวัดระยองด้วย เปิดมา 4 ปีแล้วแหละ ทำให้เราไม่ต้องเดินทางไปกรุงเทพมหานครอีกต่อไปแล้ว
เป็นอย่างไรเหรอ ...สะดวกยิ่งขึ้น ก็ตัดการเดินทางออกไป นั่นคือการเดินทางก็จะสั้นลงเยอะ ไม่เสียเวลาเป็นวัน ๆ เหมือนแต่ก่อน
ก่อนนั้น...ถ้าจะไปทำวีซ่านะ ก็ไปกันตั้งแต่เช้า กลับมาก็เย็นเลย คือหนึ่งวันให้กับการไปทำวีซ่าเพียงหนึ่งเรื่องเท่านั้น
ผมว่าการเปิดให้ทำแบบนี้ความต่างก็ไม่เห็นมีอะไร ยังเป็นความสะดวกด้วย เพราะอย่างไรเสีย เอกสารก็ต้องส่งไปให้เจ้าหน้าที่ที่กรุงเทพฯ ตรวจอยู่แล้ว
สำหรับเรื่องราวการจัดการเอกสารนั้น ถ้าไม่ได้ "ป้าอ้อย" นะ เอกสารจะผ่านยากมาก นี่ได้ "ป้าอ้อย" เข้ามาจัดการว่า...ควรจะนำเอกสารอะไรบ้างเข้าไปเสนอเจ้าหน้าที่
....ฟัง "อ้อยใจ" เตรียมเอกสารดูนะจ๊ะ...
แล้วเจ้าหน้าที่จะเห็นด้วยกับเอกสารที่เรายื่นไปว่า "OK" หลักทรัพย์ของคุณนั้นค้ำประกันได้ คง "ไม่ลักลอบ" หนีเข้าเมืองโดยใช้บัตรท่องเที่ยวหรอก เขาก็จะอนุมัติให้เรา "Pass" หรือ "ผ่้าน" เข้าเมืองเขาได้
ได้เวลาที่จะต้องเดินทางไปที่ "ไปรษณีย์ระยอง" กันแล้ว เพื่อไปขอ "วีซ่า" เข้าประเทศญีุ่ปุ่นครับท่าน วันนั้นทุก ๆ คนต้องสละเวลาอย่างอื่นกันหมด เนื่องจาก..."ตัวเป็น ๆ" ต้องเดินทางไปเอง จะฝากใครไม่ได้แล้วแหละวันนี้
การเดินทางนั้นไม่ไกลจากบ้านแล้วแหละ ทุก ๆ คนอาจจะต้องแต่งตัวแบบไม่ต้องบรรจงมากนัก ซึ่งเมื่อ 4 ปีก่อนนั้นจะต้องเดินทางไปที่ห้างเซ็นทรัลบางนากันโน่นแน่ะ ทำให้ต้องใช้เวลากัน 1 วันเต็ม ๆ แบบไม่ต้องทำอะไรกันอย่างอื่นเลย
........ชมเหตุการณ์วันที่ไปขอวีซ่ากันครับ.....
เมื่อวีซ่า "ผ่าน" แล้ว กลุ่มเรายินดีมาก กลัวและกังวลว่า...วีซ่าจะติดขัด แต่แล้ววีซ่าก็ผ่านฉลุย โดยฝีมือ "้อ้อยใจ" ค่ะ
...ชมเหตุการณ์ที่ได้รับวีซ่าผ่านซิ...
ชมรูปไปก่อนนะจ๊ะ ..กลับมาจะทำต่ออีกนิด
...ชมรูปวันไปทำวีซ่า ..ไปพลาง ๆ ก่อนนะ...
(ติดตามต่อ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น